มีดพก ปืนแก๊ป และไก่ป่า

Last updated: 31 มี.ค. 2565  |  1803 จำนวนผู้เข้าชม  | 

มีดพก ปืนแก๊ป และไก่ป่า

Treking trip หรือทริปเดินป่า เป็นอีกทริปผมชอบมากที่สุด ผมไปในฐานะ Tour leader หมายถึงว่าเราจะมีไกด์เดินป่าและลูกหาบไปกับเราด้วย ทริปนี้เราจะไปเดินป่า และพักกันที่หมู่บ้านชาวเขา อ.แม่แตง เชียงใหม่ วันแรกของการเริ่มต้นเราออกเดินทางจากโรงแรมในตัวเมืองเชียงใหม่กันแต่เช้า จุดหมายแรกคือตลาดแม่มาลัย เราจะไปซื้ออาหารและเสบียงกันที่นั่น คือเราจะเตรียมเสบียงไปตลอดระยะเวลาสามวันสองคืนที่เราผจญภัยกันบนดอย ออกจากตลาดแม่มาลัย เราแวะไปที่น้ำตกหมอกฟ้า ถ่ายรูป ว่ายน้ำกัน สำหรับน้ำตกหมอกฟ้า อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ จากแยกแม่มาลัย มุ่งหน้า อ.ปาย สักประมาณไม่เกินสิบกิโลเ จะเห็นป้ายบอกทางเข้าน้ำตกอยู่ซ้ายมือ เลี่ยวซ้ายไปตามป้ายไม่เกินห้านาทีก็จะถึงที่ทำการน้ำตก จากที่จอดรถ เดินเท้าเขาไปที่น้ำตกประมาณสิบนาที จะเห็นหน้าผาน้ำตกสูงประมาณ 40 เมตร และด้านล่านจะมีบริเวณสำหรับว่ายน้ำได้ และน้ำไม่ลึก ใครผ่านไปแถวนั้นผมแนะนำเลย จะไปถ่ายรูปอย่างเดียวก็สวย หรือจะว่ายน้ำด้วยก็สดชื่นดี แต่ทางรถเข้าไปยังน้ำตกนั้นค่อนข้างชันนิดนึง 

หลังจากนั้นเราเริ่มเดินทางกันต่อโดยใช้เส้นทาง เชียงใหม่-ปาย และเราจะแวะกินข้าวกลางวันกันที่ร้านอาหารระหว่างทาง หลังจากนั้นเราออกเดินทางกันต่อ จุดหมายของเราคือ บ้านแม่แสะ บริเวณก่อนถึงอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ซึ่งเราจะเริ่มต้นเดินเท้ากันที่นั่น

ก่อนเริ่มต้นการเดินทาง เราจะมีการเตรียมตัวกันก่อนคือจัดเตรียมน้ำ และยากันแมลง(สำคัญมาก ในการเดินป่ากับฝรั่ง) ส่วนผมไม่ต้องมีอะไรมาก แต่ผมจะมีดโบวี่ เอามาเหน็บไว้ที่เอว ที่จริงมันก็ไม่ใช่ของสำคัญอะไร เพราะทุกๆทริปที่ผมไปกับไกด์เดินป่า เขาจะมีมีดของเขาอยู่แล้ว สำหรับผมไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ แต่ผมก็อยากจะมีมันเอาไว้ เพราะมันทำให้ผมเป็นพระเอกในหลายสถานณ์การมาแล้ว กล่าวคือ เมื่อเริ่มเดินได้สักหนึ่ง-สองชั่วโมง หลายคนเริ่มเกิดอาการเมื่อย เราจะหยุดพักเป็นช่วงๆ และในระหว่างที่นั่งพัก ผมจะออกไปหาตัดไม้ใผ่เพื่อใช้เป็นไม้เท้าเพื่อค้ำเดิน หรือ Walking Stick แหม่มพวกนี้ไม่เคยชินกับอากาศร้อนบ้านเรามาก่อนเลยเหนื่อยง่าย พอได้ไม้เท้าแค่นี้ก็ปลื้มผมไม่น้อย

ส่วนมากมีดเดินป่าของผมจะได้มาจากอรัญญิก เพราะอยู่ใกล้บ้านผมที่อำเภอท่าเรือ อยุธยา ถือว่าเป็นมีดคุณภาพดีราคาย่อมเยาเลยทีเดียว มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมเคยให้มีดที่ผมใช้กับไกด์เดินป่าขาประจำที่ไปด้วยกันบ่อยๆ เพราะเห็นว่าเขาใช้มันได้เกิดประโยชน์มากมาย ผมให้ในวันแรกที่เริ่มออกเดินป่าด้วยกัน แต่เขากับไม่ใช้มัน เอาเก็บไว้ในเป้ เขาบอกผมว่าวันนี้ยังไม่ถนัด เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยใช้มัน ผมนึกไม่ออกว่าการใช้มีดมันต้องรอวันถนัดด้วยเหรอ ผมมาถึงบางอ้อเมื่อเราเดินมาถึงหมู่บ้านที่เราจะพักกันคือแรกนั่นเอง คือพอมาถึง ไกด์ของผมก็หายออกไปเกือบชั่วโมง กลับมาพร้อมกับไม้ไผ่จำนวนหนึ่ง เขาอามาทำด้ามมีด ส่วนปลอกมีดนั้นใช้ไม้เนื้อแข็ง แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน บางคนใช้ไม้สักเลยก็มี ส่วนการประกบกันของปลอกมีดนั้นเขาใช้ตอกมัดเพื่อยึดติด ใช้เวลาช่วงหัวค่ำเริ่มจัดการกับมีด พกตกดึกหน่อยผมก็แทบจำไม่ได้ว่านั่นคือมีดที่ผมให้เขาไป 



ผมขออณุญาติเล่าถึงที่พักคืนแรกของผมกับลูกทัวร์สักหน่อย ที่นั่นคือ "บ้านแม่จอก" เป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่ถูกล้อมรอบด้วยภูเขา พวกเขาจะมีภาษา และวัฒนธรรมของเอง ซึ่งแตกต่างจากสิ่งที่ผมคุ้นเคย แต่ทุกคนสามารถพูดและสื่อสารภาษาไทยได้ ที่บริเวณตีนเขา จะมีนาขั้นบันไดปลูกไว้อย่างสวยงาม ยิ่งถ้ามาช่วงที่ต้นข้าวเป็นสีเขียว หรือฤดูเก็บเกี่ยวเป็นสีรวงทวงด้วยแล้ว ไม่ต้องมีคำบรรยายเลย เหมือนภาพที่เห็นในหนังสือ หรือในหนังเลยละ ส่วนถนนนั้นไม่ต้องพูดถึง ต้องเป็น Off road ที่ยกสูงจริงๆเท่านั้นที่สามารถเข้ามาได้ หมู่บ้านนี้ไม่มีไฟฟ้า และสัญญาณโทรศัพท์ เรียกว่าตัดขาดจากโลกภาพนอกตลอดระยะเวลาสามวันสองคืนกันเลยทีเดียว 

เรื่องบ้านที่เราพักนั้น เป็นแบบโฮมสเตย์ ส่วนมากสร้างด้วยไม้ใผ่ เป็นห้องนอนรวม คือห้องหนึ่งจะนอนได้ประมาณ 20 คน ส่วนเรื่องห้องน้ำนั้นผมคุยกับลูกทัวร์ตั้งแต่วันแรกเลยว่า ที่กรุงเทพ พวกคุณพักแบบ Five Stars Hotel แต่บ้านบนดอย อาจไม่หรูหราขนาดนั้น แต่พวกคุณสามารถใช้ห้องน้ำแบบ Brilliant Stars เลย คือในระหว่างที่คุณอยู่ในห้องน้ำแล้วถ้าเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า คุณจะเห็นดาวเป็นล้านๆดวงเลยละ และก็ไม่ผิดหวัง ถ้าฝนไม่ตกก็จะได้เห็นดวงดาวเป็นล้านดวงที่สวยงามมากจริงๆเวลาอยู่ในป่า สื่งเหล่านี้ มันเป็นประสบการครั้งแรกของพวกเขา แม้แต่ผมเอง มีทริปไปบ่อยๆยังแอบติดใจห้องน้ำบนดอยเลย

คืนนั้นเรากินข้าวเย็นกันใต้แสงเทียน และมีการเล่นเกมส์รอบกองไฟ ที่ขาดไม่ได้คือเหล้าป่าหรือที่ชาวต่าวชาติรู้จักกันในชื่อของ Moonshine อากาศหนาวๆแบบนี้ Moonshine เป็นเครื่องดื่มแก้หนาวได้ดีที่สุด คืนนั้นเราก็มีการเล่นกีต้าร์ร้องเพลงด้วยกัน ผมมีอยู่เพลงหนึ่ง เข้ากับบรรยากาศมาก และทุกคนไม่ว่าจะมาจากชาติที่มีวัฒนธรรมตะวันตก ก็สามารถร้องกันได้ทุกคน เพลงนั้นคือ 'You'r my Sunshine' แต่ด้วยความเป็นไกด์บางกอกอย่างผมแล้ว มันต้องไม่ธรรมดาสิ ผมเปลี่ยนเนื้อร้องจากคำว่า Sunshine เป็น Moonshine ใครจะเอาไปร้องบ้างก็ได้นะ ผมไม่สงวนลิขสิทธ 'You'r my Moonshine, My only Moonshine. You make me happy, When Skies are grey. You’ll never know dear, How much I love you. Please don't take my Moonshine away’ 

คืนนั้นหลังจากเมากันได้ที่ เราก็แยกย้ายกันเข้านอน ผมมารู้สึกตัวอีกก่อนรุ่งสางไม่นาน 'ซัน' ลูกหาบซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านแม่จอก มาปลุกผม ชวนผมออกไปหายิงไก่ป่ามาทำกับข้าวให้ลูกทัวร์ และเป็นกับแกล้มสำหรับคืนพรุ่งนี้ ผมออกไปกับซันทันที ซันถือปืนแก๊ปคู่ใจเดินออกหน้านำทางผม เราเดินลัดเลาะไปตามทุ่งนา ขึ้นเขาหลังหมู่บ้าน เดินนานจนฟ้าเริ่มสาง ทั้งหนาวและทั้งเหนื่อยก็ยังไม่เจอไก่ป่าสักตัว ผมรู้สึกวันนี้คงไม่ได้เจอไก่อย่างที่ตั้งใจไว้ เลยชวนกลับ ซันคงเห็นด้วย จึงไม่ขัดและพากันเดินลงจากเขา ก่อนเข้าเขตหมู่บ้าน ซันบอกให้ผมยิงปืน "ยิ่งอะไรก็ได้พี่ หรือไม่ก็ยิงขึ้นฟ้า ยิงเอาเคล็ด" ผมยิงไปนัดนึง ซันใส่ดินปืนแล้วบอก "ยิงอีกทีพี่ ขออีกนัด" สรุปแล้วผมยิงไปสองนัด ขากลับซันพาผมเดินอ้อมไปอีกด้านหนึ่งของหมู่บ้าน ผมคิดว่าเขาจะไปหาเพื่อน แต่ไม่ใช่ ซันไปขอซื้อไก่จากชาวบ้าน สรุปคือเช้าวันนั้นเราไม่กลับมามือเปล่า แต่หิ้วไก่(ที่ซื้อจากชาวบ้าน)กลับมาด้วย ซันบอกกับลูกทัวร์ของผมว่า เราสองคนผัดกันยิงไปคนละนัด ได้ไก่มาสองตัวเลย ลูกทัวร์ผมหลงเชื่อปรบมือกันใหญ่เพราะได้ยินเสียงปืน หารู้ไม่ ผมต้องเสียเงินซื้อไก่สองตัวนั้นมาเพราะซันบอกว่า "จะได้มีอะไรมาอวดแขกไงพี่ ถ้ากลับมามือเปล่า เสียฟอร์มแย่เลย" จริงของซัน แต่ที่จริงผมคิดว่าน่าจะไปซื้อไก่มาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ แล้วพอตอนเช้าก็แอบออกไปยิงปืนให้ลูกทัวร์คนได้ยิน พอกลับถึงบ้าน เห็นถือไก่กลับมาก็มีเฮแล้ว จะได้ไม่เสียเวลานอนและไม่เหนื่อย

ไกด์ บางกอก

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้